‘เรืองไกร’ หวังเด็ดปีก ‘พิธา’ ส่อเค้าหลุดเก้าอี้ ‘นายกฯ’

‘เรืองไกร’ หวังเด็ดปีก ‘พิธา’ ส่อเค้าหลุดเก้าอี้ ‘นายกฯ’ จับตา “พิธา-ก้าวไกล” มีโอกาสหลุดจากตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30 แถมถูกไล่ออกจากพรรค! ด้าน “เรืองไกร” ลีกิวัฒนา เดินหน้าหาหลักฐานหักล้างความเกี่ยวข้อง ระหว่างถือครองหุ้นสื่อ-ขายที่ดิน 6.5 ล้านบาท อ.ปราณบุรี จนกลายเป็นพฤติการณ์ที่อาจจุดชนวนพิธา ต้องสิ้นสมาชิกภาพตามมาตรา 98(3) ทั้ง สส.และ รมต.แนะประชาชนยืนกรานยื่นบัญชีทรัพย์สิน 3 ครั้ง ‘พิธา’ ต่างกันอย่างไร? หากพบพิรุธในเอกสารจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาให้การเท็จ ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หากพบว่ามีใครจาก One Step Far มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะร้องเรียนต่อ กกต. ตามกฎหมายพรรคการเมือง ยื่นศาลรธน.
ประเด็นการถือหุ้น 42,000 หุ้นในสื่อไอทีวีและการขายที่ดินในภายหลัง (โฉนดเลขที่ 13543)
ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สมัยดำรงตำแหน่ง ส.ส. ในปี 2562 ระบุเป็นทรัพย์สินมรดกมูลค่าปัจจุบัน (ประมาณ) 18,000,000 บาท แต่เพียง 7 วันหลังยุบสภาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ขายเป็นเงิน 6,500,000 บาท เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 โดยมี สัญญาซื้อ
อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่ร้องเรียนกรณีหุ้นสื่อและการขายที่ดิน 6.5 ล้านบาท กล่าวว่า หลักฐาน ข้อเท็จจริง และข้อสงสัยที่ส่งถึงนายปิตาหากได้รับคำตอบ หลักฐานจะสอดคล้องและเพียงพอ สามารถส่งศาลเพื่อไต่สวนและพิจารณาคดีนายพิธาได้ หากได้ข้อสรุปที่เป็นข้อเท็จจริงก็จะตามมาด้วยคำถามที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ไม่มีความเห็น จะยื่น ป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
“เท่าที่ทราบ กกต.หลุดประเด็นไอทีวีไปแล้ว เพราะตอนร้อง กกต.ต้องพิสูจน์สิทธินายพีต้าก่อน แต่สิ่งที่ร้อง มีรายละเอียดและข้อเท็จจริง ดังนั้น กกต.ตามมาตรา 151 แห่ง อยู่ระหว่างพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เจอคุก หากผิดตัดคะแนน เกี่ยว กกต.ยื่นฟ้อง”
นอกจากนี้ นายเรืองไกรยังขอให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายปีตา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามมาตรา 82 ไม่ว่าสมาชิกสภาคนใดคนหนึ่งจะเป็น (10) หรือ (12) หรือไม่ก็ตาม หรือมาตรา 111 (3), (4) (5) หรือ (7) แล้วแต่กรณี
“ศาลจะไต่สวนอีกครั้งว่าคำร้องมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 หรือไม่ ผมขอแนะนำนักกฎหมาย อาจารย์ อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน หากอยากช่วย พีต้า ช่วยยื่นหลักฐานให้ กกต. หรือไป ขึ้นศาลนี้ดีกว่ามาตีฉัน”
และคุณเรืองไกร ผมก็สืบเสาะหาข้อมูลสารพัดที่จะทำให้หลักฐานแน่นหนาขึ้น โดยเฉพาะการขายที่ดินราคา 6.5 ล้านบาท ที่ถูกระบุว่าเป็นมรดกตกทอดมูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท จะเป็นหลักฐานมัดตัวนายพิธา ชี้แจงว่า โอนหุ้นให้หนุ่มหมายเลข 25 . ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วในฐานะผู้จัดการผู้สืบทอดและสละการสืบทอด

“ปี 2562 เวลายื่นบัญชีทรัพย์สินทำไมที่ดินถึงบอกว่าได้มาจากการแบ่งมรดก แสดงว่าหุ้น ITV แบ่งจริงหรือไม่ได้แบ่ง เพราะถ้าไม่แบ่ง ทำไมถึงเป็นชื่อของ ผู้จัดการมรดกไม่มีในรายชื่อผู้ถือหุ้นเหรอ เขาชื่อคุณ Fita ไม่น่าจะเกี่ยวกันหรอกถ้าไม่ใส่วงเล็บต่อท้าย”
อย่างไรก็ตาม ที่ดินดังกล่าวไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98(3) เพียงเพื่อเปรียบเทียบคำให้การของนายพีต้าระหว่างทรัพย์สินร่วมของไอทีวีกับทรัพย์สินที่เป็นที่ดินเท่านั้น ไม่ต้องไปหา ทรัพย์สินอื่นมาเปรียบเทียบ
“เรื่องไอทีวีเขาบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการมรดก โอนหุ้นให้น้องชาย หรือโอนแล้วไม่ขาย ขอถามหน่อยว่าที่ดินมรดกต้องคืนให้แผ่นดินไหม แต่ เขาขายได้ราคา 6.5 ล้าน เมื่อเราต้องการหลักฐานให้ตรงกันเมื่อเราต้องหาประเด็นว่าทำไมถึงมีอยู่ทุกที่เพราะทรัพย์สินมรดกต้องรวมที่ดินและหุ้นเพื่อแสดงว่าหุ้นไอทีวีมีลักษณะต้องห้ามตาม 98(3) ) ก็พอให้ศาลไต่สวนและวินิจฉัยได้ ไม่ต้องสืบ ทรัพย์มรดกทุกแห่ง” ดังนั้น หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด นายพิธา ก็จะต้องสิ้นสมาชิกภาพตามมาตรา 98(3) และไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้อีกต่อไป นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี!
บัญชีทรัพย์สินชุดที่ 2 ยังไม่เปิด แต่ที่ดินถูกขายในวันที่ 27 มีนาคม 2566 ดังนั้นต้องรอดูว่าจะสามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งที่ 3 เมื่อสาบานตนภายใน 60 วันได้หรือไม่ ป.ป.ช. จะพัฒนาอะไร?
“ต้องดูว่านายพิธาชี้แจงอย่างไรเพราะหากแจ้งบัญชีปลอมมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ส่วน ป.ป.ช.จะตรวจสอบหรือไม่ก็ได้เรื่องนี้แต่ถ้าไม่ตรวจสอบและเปิดเผยต่อสาธารณะหากพบว่ามี ผิดพลาดและมีข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ผมจะร้องเรียน ป.ป.ช. ดำเนินการ เพราะกฎหมายระบุชัดว่าหากบัญชีและข้อเท็จจริงเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ท่านจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองประมาณ 5 ปี”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณพีต้า แต่เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรครวมพลเคยเห็นหรือไม่ เหมือนพรรคเล็ก เลขาธิการสาขาพรรครีบลาออก แต่ดันมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เรื่องนี้คงต้องรอลุ้นกันต่อไป” และดูเอกสารฟ้องคดีอาญากับ กอ.รมน. หลักฐานต้องแน่นถึงข้อหาตามกฎหมายพรรคแค่เชื่อว่าใช้ได้จะพูดอะไรก็ต้องดูหลักฐานที่เป็นเอกสารราชการ”
เห็นหลักฐานแล้วมีความผิดจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด การตัดสินใจ. ส.ส.ยังคงมีอยู่ แล้วย้ายไปตั้งใหม่หรือจะเหมือนพรรคไทยรักษาชาติ? สั่งยุบ, ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี, ห้ามตั้งพรรคใหม่ 10 ปี, หรือศาลเห็นว่าไม่มีความผิด? อนุญาโตตุลาการขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวการเมือง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : fastdramatic