ครองพรรคแต่เป็นก๊กเดียวกันไม่ยอม ถ้าแตกต่างฉันรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว โดยส่วนตัวแล้วคุณพิตาเป็นคนใจดีน่ารักแต่ขี้น้อยใจ ตัวอย่างจะชวนพัฒนาชาติไทยกล้าพอโดนด่าก็เลิกทำ “พวกที่แอบขึ้นลงไปชนนี่ไปไม่ไกลนะไม่ได้ตรวจนี่ใครทำผิดกฎหมายใครมาโพสด่าไอ้งี่เง่าไม่สำคัญหรอกถ้าทำให้เสื่อมเสียก็ผิดกับ พ.ร.บ.

ก่อนหน้านี้สิ่งที่เรียกกันว่า “สนูปี้ออเรนจ์” ล้วนถูกสร้างความวุ่นวายภายในพรรคเพื่อไทย ระหว่างการหารือกับตัวแทนพรรคพลังประชาชนที่ขัดขวางการเจรจากับพรรคดังกล่าว เลขาธิการพรรค “นายสันติ โพรพัทธ์” ซึ่งอ้างว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “พรรคลุง” ได้โรยแป้งลงบน หัวหน้าพรรคและตีเขาด้วยหัวแป้ง พร้อมกันนี้ผู้ชุมนุมยังนำภาพการเหยียบย่ำของแกนนำพรรคเพื่อไทย “ดร.ชลนันท์ ศรีแก้ว” ระหว่างการชุมนุมที่แยกอโศก เชื่อว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะสร้างความไม่พอใจให้กับกองเชียร์พรรคเพื่อไทยและยิ่งแย่ไปจากเดิมที่คุกรุ่นอยู่แล้ว

ในอดีตพรรคเพื่อไทยได้รับการแต่งตั้งจากพรรคก้าวไกล เมื่อเป็นผู้นำในการรวมคะแนนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา พรรคเพื่อไทยได้เจรจากับพรรคต่าง ๆ ในรัฐบาลเก่า ทั้งสองภูมิใจในคนไทยที่สร้างประเทศร่วมกับคนไทย ได้แก่ พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า ย้ำยังไม่ได้รับการทาบทามร่วมรัฐบาล แค่รับฟัง ได้รับคำตอบเดิม ๆ ไม่ร่วมงานกับฝ่ายก้าวหน้า และห้ามแก้ไขหรือแตะมาตรา 112

กลายเป็นว่า ณ เวลานี้ แทบทุกด้านต่างโดดเดี่ยวในขณะที่ฝ่ายหนึ่งรุกคืบเข้ามา อย่างไรก็ตาม เกา กัง ยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออกจาก 8 พรรค และจะยังคงอยู่ที่พรรคเพื่อไทย มิฉะนั้น หากเขาออกไป พรรคเพื่อไทยจะต้องพูดเอง ด้วยความหวังว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะยื่นคำร้องซ้ำหลังจากยื่นคำร้องแล้วถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่? 

แน่นอนว่านี่เป็นการ “หยุดเกม” ของพรรคก้าวหน้า ส.ส.บางพรรคบอกให้รออีก 10 เดือนจนครบอายุ ส.ว. หวังจะให้นายพิธาลงมติไม่เลือก ส.ว. คุณต้องรอ มันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ? “และอื่น ๆ

ในขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็ดูเหมือนจะรอให้ทุกอย่าง “โตเต็มที่” ในการจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องชัดเจนมาก ค่อนข้างปล่อยให้สังคมรอบข้างกดดันให้พรรคเดินหน้าต่อไป เพราะหากลองคิดดูดี ๆ บรรยากาศในวันนี้จะแตกต่างไปจากวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่พรรค Gauclés ได้อันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง แต่ความคืบหน้ากำลังเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีพี่เลี้ยงเด็ก เด็กนิสัยเสีย และที่สำคัญที่สุดคือความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นของ “คนเสื้อแดง” ที่สนับสนุนขบวนการเพื่อไทย

แม้ว่าเดิมทีการประชุมนี้กำหนดไว้ในวันที่ 25 กรกฎาคม ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ รวมถึงนายวัน โมฮัมหมัด นูร์ มาตา ประธานสภาแห่งชาติ แต่เขามีแผนจะจัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 กรกฎาคม เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เขาเรียกประชุมแล้วปิด ทุกอย่างหายไปเพราะรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่เชื่อผลบวกน่าจะตกกับพรรคเพื่อไทย

วันแล้ววันเล่าในขณะที่พรรคเดินหน้า แรงกดดันก็มากขึ้นกว่าเดิม เพราะขณะนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากรออีก 10 เดือนเพื่อให้วุฒิสมาชิกหมดวาระ และนายพิธาซึ่งลงคะแนนในเวลานั้น เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะฉีกบันทึกความเข้าใจเมื่อสถานการณ์สุกงอมพอ เวลาที่รัฐบาลจะประกาศเพื่อดำเนินการควรเป็นสมัยประชุมรัฐสภาต่อไป เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ชัดเจน