Fastdramatic.COM

เว็บข่าว ข่าวสดออนไลน์ 

ศาลยืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ

ศาลยืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ

ศาลยืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ

ศาลยืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ ตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 7 ตุลาคม 2551 พันธมิตรประชาชนประชาธิปไตยได้จัดการชุมนุมในบริเวณรัฐสภา โดยกล่าวว่าการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ไม่มีการถืออาวุธ จุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโปงการทุจริตที่ทำให้พี่เขยของทักษิณไม่สามารถแถลงนโยบายได้ ความรุนแรงมีสาเหตุมาจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง ไม่พอใจจนมีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจึงตอบโต้เจ้าหน้าที่โดยไม่ออกคำสั่ง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (2 พ.ย.) ในห้องพิจารณาคดี 806 ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ก. 4924/2555 โดยโจทก์ในคดีคือพนักงานอัยการของ กองบังคับการอาญาที่ 10 เจ้าหน้าที่ ดำเนินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล, 70. Scrap อดีตผู้นำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พร้อมด้วยอดีตผู้นำและพันธมิตรของ พธม. 21 คน ถูกกล่าวหาหมายเลข 1 ถึง 21 กรณีกลุ่มพันธมิตรฯ ย้ายการชุมนุมจากทำเนียบรัฐบาล การปิดล้อมสถานที่ราชการเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประชุมประกาศนโยบายต่อรัฐสภา

การกระทำที่ไม่เข้าข่ายวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญ

การสมรู้ร่วมคิดต่อหน้าสาธารณชน จดหมาย หรือการกระทำอื่นใดที่ไม่เข้าข่ายวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญ หรือแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือวิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล การใช้กำลัง การข่มขืน หรือใช้ ความรุนแรงจนเกิดความโกลาหลหรือกบฏในหมู่ประชาชนหรือแม้แต่ก่อให้เกิดความไม่สงบในประเทศ หรือทำให้ผู้อื่นฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศ หรือทำหน้าที่เป็นผู้นำหรือผู้รับผิดชอบออกคำสั่งให้ชุมนุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้ความรุนแรง ข่มขู่ความรุนแรง หรือทำอะไรบางอย่าง 

มันทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ ผู้กระทำผิดมีอาวุธและไม่ได้หยุดรวบรวมหรือบังคับผู้อื่นให้ทำอะไรเมื่อตำรวจสั่งให้หยุด อย่ากระทำการใด ๆ หรือเชื่อฟังสิ่งใด ๆ ที่สร้างความกลัวว่าชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนหรือของผู้อื่นจะตกอยู่ในอันตราย หรือใช้ความรุนแรงจนผู้ถูกข่มขืนถูกบังคับให้กระทำการ อย่าทำอย่างนั้น หรือโดยการก่ออาชญากรรมโดยครอบครองอาวุธ หรือโดยการก่ออาชญากรรมโดยให้บุคคลตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปร่วมกันควบคุมหรือจำคุกบุคคลอื่น หรือลิดรอนเสรีภาพทางกายของผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง ถือเป็นความผิดตามมาตรา 116, 215, 216, 309, 310 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ศาลยืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำ การชุมนุม

สรุปว่าจำเลยหลายพันรายตกเป็นเหยื่อ

โจทก์บรรยายถึงอาชญากรรมดังกล่าวในคำฟ้องเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งสรุปว่าจำเลยและกลุ่มพันธมิตรฯ หลายพันรายตกเป็นเหยื่อระหว่างวันที่ 5 ถึง 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 การเข้าร่วมการชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาลได้จัดให้มีเวทีในการกล่าวสุนทรพจน์และยุยงให้กลุ่ม NLD รวบรวมและปิดล้อมรัฐสภา ไม่อนุญาตให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) เข้าร่วมการประชุมรัฐสภา ในเวลาเที่ยงวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จำเลยได้ใช้รถบรรทุก 6 ล้อพร้อมเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่และรั้วลวดหีบเพลงลอดรั้วเหล็กของจัตุรัสรูปปั้นคนขี่ม้าเพื่อกั้นบริเวณรอบรัฐสภาทำให้ประชาชนไม่สามารถผ่านได้ และกล่าวสุนทรพจน์ยุยงปิดล้อมรัฐสภา ส่งผลให้ ส.ส. และ ส.ว. บางคนไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมรัฐสภาได้ 

ผู้ต้องหาและพรรคพวกยังร่วมกันสมคบคิดเพื่อข่มขืนอดีตสมาชิกวุฒิสภาสตูล นายสุริยา ปานจอ และนายมณฑล ไกรวัฒนุสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร พรรคเพื่อไทย นายปัญญา ศรีปัญญา อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย และข้าราชการการเมืองอีกจำนวนมากที่ขับรถกลับบ้านและขู่ว่าจะใช้ความรุนแรงเป็นอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้ยังมีการตะโกนด่าทอ การใช้หนังสติ๊ก อาวุธปืน และมีด การแทงเจ้าหน้าที่ด้วยปลายธงเหล็กอันแหลมคม ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทางเข้าออกถูกล็อคด้วยโซ่เหล็ก สภาภาคี พร้อมออกประกาศขู่จับกุมประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาหากไม่ยุบสภาผู้แทนราษฎรในเวลา 18.00 น. สมาชิกสภาบางกลุ่มรวมทั้งสมาชิกทุกคนปีนกำแพงหนีจากพระที่นั่งวิมานเมฆ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ต่อมาในตอนเย็น จำเลยและพรรคพวกยังได้กล่าวสุนทรพจน์ยุยงกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยประชาชนหลายพันกลุ่มที่ติดอาวุธด้วยมีด ปืน กระบอง ธง หนังสติ๊ก ฯลฯ ให้เคลื่อนตัวไปหน้าอาคารรัฐสภาและปิดกั้นทางเข้าออก และราดน้ำมันบนถนนหน้ารัฐสภาและขู่จะใช้กำลังโจมตีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ ส.ว. รวมทั้งใช้รถกระบะที่มีป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร หมายเลข WP1968 ซึ่งนายปรีชา ตรีจรูญ ขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกตำรวจทุบตี มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนระหว่างกะทำงาน อัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยแยกต่างหากในศาลอาญา จำเลยทุกคนปฏิเสธเรื่องนี้

ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสอบแฟ้มคำปรึกษาแล้ว

ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสอบแฟ้มคำปรึกษาแล้ว และตัดสินว่าการชุมนุมของกลุ่มนี้เป็นไปอย่างสงบและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาล จากการอุทธรณ์ของโจทก์นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พวกเขายังคงต่อสู้กับการทุจริตในยุคทักษิณและได้ประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 239 และ 309 เพื่อช่วยให้ทักษิณไม่ถูกยึดหรือติดคุก ทั้งยังกำหนดนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ จะเห็นได้ว่า มีนโยบายมากมายที่ทำให้คนหลายชนชั้นไม่พอใจ จึงออกมาปกป้องผลประโยชน์ของชาติด้วยการชุมนุม

อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวการเมือง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : fastdramatic

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ