รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางเสร็จปี 66 พร้อมทยอยเปิดใช้งาน

รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางเสร็จปี 66 พร้อมทยอยเปิดใช้งาน เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 มีทางฉุกเฉิน 5 สาย ความยาว 702 กิโลเมตร (กม.) รวม 9 ผู้รับเหมา มูลค่าก่อสร้างรวม 69,531 ล้านบาท
การก่อสร้างล่าช้าตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2561 อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ผู้รับเหมา เสียค่าปรับ 0% ของการใช้สิทธิ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับแผนการทำงานหลายครั้งล่าสุดได้ทยอยก่อสร้างงานโยธาเป็นระยะ และ รฟท.มีแผนเร่งเปิดใช้ทางคู่เฟสแรกในปี 2566
งานโยธาแล้วเสร็จ 100% เร่งรัดแผนเปิดโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรก รวม 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 771 กิโลเมตร วงเงิน 88,014 พันล้านบาท แบ่งเป็น 10 สัญญา มูลค่างานโยธา 76,591 ล้านบาท ผู้รับเหมายังไม่ได้เข้าประมูลงาน 9 สัญญาที่ผู้รับเหมาลงนามเนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับแบบก่อสร้างโดยมีความคืบหน้าดังนี้
สายเหนือช่วงจังหวัดลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร งานโยธาโดยรวมล่าช้า 21.81% (แบบแปลนรวม 100.00% งานรวม 78.19%) แบ่งเป็น 2 สัญญา ได้แก่
– สัญญาที่ 1 (บ้านกุบ-โคกกระเทียม) ระยะทาง 29 กม. มูลค่าก่อสร้าง 1.05 หมื่นล้านบาท โดยมีกิจการร่วมค้า UN-SH (Unique/China Hydro) เป็นผู้รับเหมา เริ่มงาน 15 มิ.ย. 61 – 14 มิ.ย. 65 (48 เดือน) ผลงาน ณ มิ.ย. 66 คืบหน้า 85.88% (แบบแปลน 100.00%) ล่าช้า 14.1 2%
– สัญญาที่ 2 (ท่าแค-ปากน้ำโพ) ระยะทาง 116 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 8.649 พันล้านบาท โดยมี บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง 31 มกราคม 2564 (36 เดือน) และขยายสัญญาอีก 17 เดือน (กุมภาพันธ์ 2564 ถึง กรกฎาคม 2565) วันที่ 25 มิถุนายน เริ่มก่อสร้าง 66 ความคืบหน้า 78 .19% (แผนงาน 100.00%) ล่าช้า 21.81%
แผนที่สายตะวันออกเฉียงเหนือ – แยกกะเบา-ถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่
– สัญญาที่ 1 (มาบกะเบา-คลองขนานจิตร) ระยะทาง 58 กม. มูลค่าก่อสร้าง 7.56 หมื่นลบ. ร่วมกับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนท์ในฐานะผู้รับเหมาเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 (48 เดือน) และขยายอายุสัญญาออกไปอีก 309 วัน จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ณ เดือนมิถุนายน 2023 ความคืบหน้าของประสิทธิภาพคือ 96.22% (วางแผนไว้ 100.00%) และความล่าช้าคือ 3.78%
– สัญญาที่ 2 (คลองประปา-แยกถนนจิระ) ระยะทาง 69 กม. ค่าก่อสร้าง 7,060.58 ล้านบาท แบบเดิมแล้วเสร็จ แต่มีปัญหาเกี่ยวกับการรื้อสะพานแยกสีมาตานี และก่อสร้างอุโมงค์ทดแทน ล่าสุดทาง อ.เมือง ต.บ้านใหม่ จ.นครราชสีมา ต้องการเปลี่ยนแบบเป็นโครงสร้างยกระดับ (โครงสร้างยกระดับ) แทนทำนบดินยกระดับ ระยะทาง 7.85 กม. เพื่อลดปัญหาการระบายน้ำและการจราจร
– สัญญาที่ 3 โครงการอุโมงค์รถไฟ ความยาวรวม 8 กิโลเมตร มีทั้งหมด 3 อุโมงค์ ได้แก่ อุโมงค์ที่ 1 ยาว 5.85 กิโลเมตร อุโมงค์ที่ 2 ยาว 0.65 กิโลเมตร และอุโมงค์ที่ 3 ยาว 1.40 กิโลเมตร เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 – 30 ธันวาคม 2021 (42 เดือน) สัญญาขยายออกไปอีก 271 วันจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2022 ณ เดือนมิถุนายน 2566 ความคืบหน้า 98.13% (แผน 100.00%) ความล่าช้า 1.87%
โดยทั่วไปโครงการสายอีสานยังประสบปัญหางบประมาณเวนคืนไม่เพียงพอและพระราชกฤษฎีกาเวนคืนสิ้นอายุ ปัจจุบัน รฟท.เสนอแนะกระทรวงคมนาคมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพิ่มวงเงินค่าทดแทนค่าเวนคืนที่ดินหัวแหลม และปลายอุโมงค์รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท
สายใต้นครปฐม-ชุมพร ระยะทางรวม 421 กิโลเมตร งานโยธาโดยรวมล่าช้า 3.073% (100.00% ของแบบแปลนทั้งหมด 96.927% ของสัญญา) แบ่งเป็น 5 สัญญา

– สัญญาที่ 1 (นครปฐม-หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 8.198 พันล้านบาท โดยมีบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง (1964) เป็นผู้รับเหมา เริ่ม 1 ก.พ. 61-31 ม.ค. 64 (36 เดือน) ต่อสัญญา 20 เดือน (ก.พ. 64-ก.ย. 65) ณ 20 ผลงาน 23 มิ.ย. คืบหน้า 97 .183% (แผน 100.00%) ล่าช้า 2.817%
– สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล-หัวหิน) ระยะทาง 76 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 7.52 พันล้านบาท ร่วมกับ บริษัท จงไท่ เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด เริ่มงานเป็นผู้ก่อสร้าง 1 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง 31 มกราคม 2564 (36 เดือน) ต่อสัญญา 20 เดือน (กุมภาพันธ์ 2564 ถึง กันยายน 2565) ความคืบหน้าของงาน ณ มิถุนายน 2566 97.537% (100.00% ของแผน) ล่าช้า 2.465%
– สัญญาที่ 3 (หัวหิน-ประจวบฯ) ระยะทาง 84 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 5.807 หมื่นล้านบาท ร่วมกับ บมจ.อิตาเลียนไทย พัฒนาเป็นผู้รับเหมา เริ่มงาน 1 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง 31 กรกฎาคม 2563 (30 เดือน) ต่อสัญญาอีก 11 เดือน (ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 ถึง 30 มิถุนายน 2564) และต่อสัญญาครั้งที่ 2 ออกไปอีก 4 เดือน จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564 ความคืบหน้าการดำเนินงาน ณ เดือนมิถุนายน 2566 99.999% (แผน 10 0.00%) ล้าหลัง 0.001%
– สัญญาที่ 4 (ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 6.465 พันล้านบาท กิจการร่วมค้า KS-C (KS Joint Venture / China Railway Eleven) เป็นผู้รับจ้าง เริ่ม 1 ก.พ. 61-31 ต.ค. 63 (33 เดือน) ขยายสัญญา 15 เดือน (1 พ.ย. 2563-31 ม.ค. 2565) มีผล ณ วันที่ มิถุนายน 2566 คืบหน้า 93.51% (แผน 100.00%) ล่าช้า 6.49%
– สัญญาที่ 5 (บางสะพานน้อย-ชุมพร) ระยะทาง 79 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 5.992 พันล้านบาท ร่วมทุน STTP (Sino-Thailand/Taikong) เป็นผู้รับจ้าง เริ่ม 1 ก.พ. 61 – 31 ม.ค. 64 (36 เดือน) ขยายสัญญา 15 เดือน (1 ก.พ. 64 – 30 เม.ย. 65) เริ่มก่อสร้าง 1 2 มิ.ย. 56 6 ความคืบหน้า 96.523% (แผน 100.00%) ล่าช้า 3.477%
สายเหนือลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้าง 2.98857 พันล้านบาท กลุ่มกิจการร่วมค้า BT-UN Traffic Signal (Thailand) Co., Ltd. และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มี Bombardier เป็นผู้ดำเนินการ มีอายุ 39 เดือน เริ่มวันที่ 24 มกราคม 2563 มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2566 ณ เดือนมิถุนายน 2566 ความคืบหน้า 3 2 14% (45.699% วางแผนไว้), 13.559% ล่าช้า
สายตะวันออกเฉียงเหนือมาบกะเบา-แยกทะนงจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 2,549,89 ล้านบาท โดยร่วมกับบริษัทอิตาเลียนไทย พัฒนาและ LS Industrial Systems หรือ LSIS ประเทศเกาหลี ระยะเวลาดำเนินการ 45 เดือน ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2566 ผลการดำเนินงาน ณ มิถุนายน 2566 คืบหน้า 19.20% (แผน 19.79%) ล่าช้า 0.59%
สายใต้นครปฐม-ชุมพร มีระยะทาง 421 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 7,384,840,000 บาท ผู้ดำเนินการคือ China Railway Signal and Communication Co., Ltd. หรือ CRSC ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน เริ่มก่อสร้างวันที่ 27 มกราคม 2563 มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2566 ณ เดือนมิถุนายน 2566 ความคืบหน้า 48.147% (แผน 100.00%) ความล่าช้า 5 1.85.3%
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวด่วน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : fastdramatic