ปัญหาที่แก้ไม่ตก ประเด็นดราม่า ครูรับงานเสริม

กรณีครูหญิงที่รับร้องเพลง กะกลางคืนได้มี ประเด็นดราม่า ครูรับงานเสริม เป็นต้น คำถามที่ว่าเหมาะกับพวกเธอหรือไม่ก่อนที่หน่วยในสังกัดจะถูกบีบให้ออกจากงานย่อมถูกตั้งคำถามเป็นธรรมดา เนื่องจากอาชีพนี้ถูกวางตำแหน่งเป็น “แบบอย่างของชาติ”
จึงมีความคาดหวังฝังแน่นว่าครู ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ตามกรอบของสังคม แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ วิชาชีพครู ค่าตอบแทนไม่มาก หนี้ครูทั้งสองด้านเป็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาลต้องจัดการอย่างเร่งด่วน การหารายได้เสริมนอกเวลา ราชการเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ของการลาออกจากราชการครู นี่เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจ หลังจากครูสาว คนหนึ่งลุกขึ้นยืนบน Douyin และ บ่นเกี่ยว กับ การเข้าชั้นเรียนร้องเพลงตอนกลางคืน หลังจาก “ครูเจน” ถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียนเพราะประพฤติผิดจรรยาบรรณ ประเด็นนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรค ปชป. แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า ” รับจ้างร้องเพลงตามร้านอาหาร เป็น อาชีพสุจริตไม่ผิดกฎหมายใด ๆ ด้วยความปรารถนาดี แนะนำให้กรรมการหยุดทันที ไล่ออก”
แม้ในช่วงแรกอดีตต้นสังกัดของครูสาว ได้แถลงข่าวโดยนางสมพร กิติสธร ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาผดุงประชายะลา ปฏิเสธไม่เป็นความจริง และ ไม่เคยปิดกั้น งานหลักคือวิชาชีพครู งานรองคือการหารายได้เสริม เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่ต้องเข้าใจว่าใน 3 จังหวัดมีนักเรียน 700 คน นับถือศาสนาพุทธ 80 คน ที่เหลือเป็นมุสลิม เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นักเรียนบางคนบ่นเกี่ยว กับ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู เช่น การดื่ม การดื่มอวยพร และการโห่ร้อง มันอาจทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาถูกบีบ
สำหรับครูเจนในหน้าที่ธุรการ รับผิดชอบงานเอกสารและกิจกรรมต่าง ๆ โดยสถานศึกษา มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 16,435 บาท เข้าใจว่ารายได้อาจไม่เพียงพอในการหาอาชีพเสริม โดยสรุป สถานศึกษามุ่งเน้นที่จะพยายามสื่อสาร ให้สังคมสนับสนุนให้ครูมีรายได้ หารายได้พิเศษ กดดันครูเอง เตือนสมัครใจลาออก

วิกฤตหนี้ครู ประเด็นดราม่า ครูรับงานเสริม
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเงินเดือนครูไม่สูงนัก นอกจากนี้ ครูไทยยังเผชิญกับ “วิกฤตหนี้ครู” ที่รัฐบาลพยายามแก้ไข อย่างหนัก โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการร่วม กับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันนโยบาย ของรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้ครู พบว่าครูทั้งประเทศมีกว่า 900,000 คน รองลงมาคือ
ธนาคารออมสิน 3.49 พันล้านบาท และสถาบันการเงิน เช่น ธ.กรุงไทย ส่งผลดีต่อลูกหนี้กว่า 400,000 ราย ภาระหนี้ลดลงกว่า 2,200 ล้านบาท 2. การปรับโครงสร้างหนี้ โดยการรวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหรือให้กู้เงินจากสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าทำให้เงินค่าจ้างครูต่อเดือนลดลงและเหลือเงินเดือนหลังหักลดหย่อนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และ 3. กำหนดเงินค่าลดหย่อนสวัสดิการ ฌาปนกิจสงเคราะห์
ช่วยให้กลุ่มแรก ( 70% ของเงินเดือน % ) ของครูและนักการศึกษาอื่น ( ภ.ป.ก. ) สามารถใช้เงิน กยศ. เป็น หลักประกันการกู้ยืมได้ ปัจจุบัน ครู และ นักการศึกษา 360,000 คนใช้ CHP เป็นหลักประกันเงินกู้ โดยไม่มีค่าประกันเพิ่มเติมสำหรับครู ช่วยลดค่าใช้จ่ายกว่า 2.3 พันลบ.
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ครูและนักการศึกษา หลายแสนคนต้องตกเป็นหนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามจัดการ กับหนี้ครูก็ตาม บางคนถึงจุดที่รายได้ไม่พอใช้ ต้องหันไปเป็นหนี้นอกระบบ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงิน และ ตลาดการเงิน ของสภาผู้แทนราษฎร
จัดทำรายงานข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหา หนี้บำเหน็จบำนาญครูเพื่อตอบสนองต่อวิกฤต หนี้ในปัจจุบัน รายงานที่จะเผยแพร่ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 นำเสนอประเด็นเชิงโครงสร้างของหนี้ครู
เมื่อพูดถึงปัญหาโครงสร้างหนี้ครู ที่ผ่านมา เจ้าหนี้แข่งกันปล่อยกู้โดย ไม่ควบคุมยอดหนี้ ส่งผลให้ครูกู้ยืมเกินศักยภาพ ในการชำระหนี้ด้วยเงินเดือน ปัญหาที่ทำให้ครูประสบปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว คือ เจ้าหนี้เงินกู้ตั้งแต่วันแรก ที่ครูเข้ารับตำแหน่ง เจ้าหนี้พร้อมปล่อยกู้ครูทันที นับล้านบาท ไม่คำนึงถึงศักยภาพ หรือรายได้เลย หลายแห่งไม่มีขีดจำกัด ต้องการผู้ค้ำประกัน 3-4 คนในเวลาเดียวกัน หรือบางกรณี 10 คน เพื่อโอนความเสี่ยง และ ไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันร่วม
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวการเมือง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : fastdramatic