“บิ๊กโจ๊ก” ยันรู้หมดใครสั่งค้นบ้าน

“บิ๊กโจ๊ก” ยันรู้หมดใครสั่งค้นบ้าน “พลเอกสุรเชษฐ์” เผยไม่อยากทำลายตัวเอง หลังจากทราบข่าวผู้บงการสั่งค้นบ้านแล้ว ตำรวจไทยกังวลผลสะท้อนกลับ อธิบายว่า การให้เงินนักข่าวครั้งละ 10,000 บาท เป็นเวลา 4-5 วัน ถือเป็นการแสดงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่ไม่ใช่สินบน อยากเล่นนักข่าวก็พร้อมช่วย ชี้แจงว่าต้องใช้เงินของตัวเองเลี้ยงดูลูกน้องให้ได้เดือนละ 250,000 บาท เผยแต่เพียงสถานการณ์ลูกน้องหลังได้ประกันตัวแล้ว บ้างก็ขอโทษที่ทำให้เกิดปัญหา แต่ส่วน “พล.ต.อ.นันเจียด” ลูกน้องคนสนิทก็ไปทำงานตามปกติ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้แต่งตั้งทนายอนันต์ชัย ไชยเดช “ทนายเหล็ก” ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ขอหมายค้น สำหรับทีมบังคับคดีขอให้ออกหมายจับและขอให้ศาลสอบสวนว่าฝ่าฝืนอำนาจศาลหรือไม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เกี่ยวกับการออกหมายจับตำรวจทั้ง 8 นาย พบว่าไม่ได้ระบุยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาลจะไม่ออกหมายจับหากมีการให้รายละเอียดแก่ศาล แต่ต้องออกหมายเรียกก่อน นอกจากนี้ คณะปฏิบัติการยังคงผูกมัดกับพลเรือนอีก 15 คน
ในการขอออกหมายจับ แต่ต้องขอหมายเรียกหรือหมายจับจากศาลอาญากลางคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพราะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ข้างใน เคยมีการยื่นหมายจับมาก่อนและถือว่ามีเบาะแส นี่คือกลอุบายของศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลอาญารัชดาภิเษก ทีมงานขอหมายค้นจากศาลอาญารัชดา เนื่องจากมีการใช้หมายค้นบ้านบริเวณวิภาวดีรังสิต โดยไม่ได้แจ้งต่อศาลว่าเป็นบ้านพักของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่ากันว่าเจ้าของบ้านทั้งห้าหลังนี้เป็นพลเรือน เขายอมรับว่าบ้านทั้งห้าหลังเป็นของเฮียแต้ม มีจริงแต่สงสัยตำรวจที่ติดตามหรือพ.ต.ท.ชานนท์ เอื้อมธร พร้อมออกหมายจับ
โดยทราบว่ามีการออกหมายจับตับแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 กันยายน และออกหมายค้นเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน สารวัตรเกษตรไม่ได้นอนเลยที่บ้านในหมู่บ้าน อาศัยอยู่ที่ หอพักตำรวจพญาไท แล้วทำไมเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่แล้วทีมจับกุมไม่จับสารวัตรนนท์? แต่เขาถูกจับกุมที่หน้าบ้านพักเมื่อวันที่ 25 กันยายนแต่เขามองว่ามันเป็นการแบ่งงานรูปแบบหนึ่ง การปกปิดข้อเท็จจริงจากศาลเป็นเรื่องปกติ ขอออกหมายค้นและจับกุมข้างต้น

ผบ.ตร.สุเรศ เปิดเผยว่า หากเรามีอำนาจสอบสวนได้ในอนาคตหน้าที่ของตำรวจก็จะยากขึ้น งานสืบสวนจะเหนื่อยมากขึ้นเมื่อทำเช่นนี้ เพราะศาลจะพิจารณาให้ละเอียดยิ่งขึ้น การอนุมัติหมายจับหรือหมายค้นทำได้ยากกว่า เพราะคดีนี้ศาลถูกหลอก เรื่องของเฮียแต้มเขาและครอบครัวรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นสารวัตร นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผู้เฒ่าและญาติ ก่อนหน้านี้เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตำรวจ จนผมได้เป็นแม่ทัพ 191 ทนไม่ไหวแล้ว มีงานเยอะ ลูกน้องก็เยอะ เลยอยู่บ้าน แต่การบ้านยังไม่เสร็จ บ้านที่จะสร้างจะสร้างบนที่ดิน 10 ไร่ที่พ่อตามอบให้ที่พุทธมณฑลสาย 7 เขาได้ถมดินเรียบร้อยแล้ว
แต่ยังสร้างบ้านไม่ได้ เลยยังไม่พร้อมที่จะซื้อบ้านเพราะผิดหวังเรื่องเงิน เพราะเรายังมีที่ว่างให้เติม เลยตัดสินใจหาบ้านเช่าก่อน จากนั้นไชอาไทเม่ก็บอกว่ามีบ้านอยู่ในหมู่บ้านนั้น เห็นว่าอยู่ใกล้อพาร์ทเมนท์วิภาวดีจึงขอเช่าแต่พี่ตั้มขออยู่ มีน้ำใจจึงขอเช่าบ้านสองหลังราคา 50,000 บาท ส่วนค่าน้ำค่าไฟก็จ่ายเอง ห้องที่เหลืออีกสามห้องแบ่งออกเป็นสองห้องสำหรับเก็บของ (ไม่มีใครหลับ) ดูเหมือนเขาจะเฝ้าบ้านให้ไชอาไทเมะ อีกห้องหนึ่งว่างเปล่า ตอนที่พ่อของฉันป่วยหนักฉันก็เลยบอกให้พ่อมาที่นี่ เขาจ้างพยาบาลมาดูแลหลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตและบ้านว่างเปล่า เขาจึงใช้บ้านเพียงสองหลังเท่านั้น
ผกก.สุรัชเตอร์ เปิดเผยว่า มีหมายจับสารวัตรหมายเลข 1 (เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตาม) พนักงานสอบสวนระบุอาชีพของตนไว้ท้ายคำขอหรือไม่? ไม่รู้ ไม่เห็นเขาระบุอาชีพอะไร โดยปกติแล้วเมื่อมีหมายจับ ศาลจะพิจารณาบุคคลนั้น สถานที่ก่อน และดูรายละเอียดทั้งหมด ทำไมไม่จดอันดับและตำแหน่งของตัวเองล่ะ? นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก เพราะต้องรู้ว่าใครจะไปตรวจค้นหรือจับกุมตั้งแต่เริ่มสอบสวน โปรดใส่ใจกับเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ และนี่ไม่ใช่ยุคของ คสช. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะออกมาแน่นอน อีกทั้งคดีกำนันนอกขอให้ศาลออกหมายจับด้วย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางระดับ ออกโดยศาล
ส่วนการมอบเงินให้นักข่าวบางส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่าเขาเป็นผู้ให้ที่แท้จริง แล้วนักข่าวที่ไปด้วยก็มีทีมงานตอนที่ผมไปถ่ายข่าวหลายวันติดต่อกันก็ให้เงินครั้งละ 10,000 บาท ครั้งละ 4-5 วัน ซึ่งถือว่าไม่มาก และทุกครั้งที่ให้ก็บอกว่าให้ทางช่อง คนพวกนี้ไม่เคยมาขอเงินเลย แต่เขาเลี้ยงอาหารกลางวัน ผู้สื่อข่าวที่มาสโมสรตำรวจเพื่อรายงานข่าวให้ลูกน้องเลี้ยงอาหารกลางวันวันละ 200 กล่อง เดือนละ 250,000 บาท
ซึ่งเป็นเงินตามกฎหมาย มันเป็นเงินส่วนตัวของพวกเขาเอง นักข่าวเลยจัดการมันทั้งหมด เขาไม่สามารถถอนเงินได้ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มงานหากคุณต้องการให้ทำงานได้ดีเนื่องจากมีงบประมาณที่จำกัด คนที่ไว้ใจก็มาร้องเรียนแต่ไม่แจ้งตำรวจเพราะคนเยอะเกินไปและไม่มีที่จอดรถ นอกจากนี้ เขายังไม่ได้พูดคุยกับนักข่าว 4 คนเกี่ยวกับหมายจับของเขา โดยยืนยันว่าไม่ใช่สินบน เงินที่คุณใช้ซื้อข้าวไม่ใช่เงินจากเว็บไซต์การพนัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวด่วน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : fastdramatic